Thursday, 30 March 2023

ความคืบหน้า ลิขสิทธิ์บอลโลก 2022 ยังไร้วี่แววจากฟีฟ่า ภายใน 6 วันจะชี้เป็นชี้ตาย

ความคืบหน้า ลิขสิทธิ์บอลโลก 2022 ยังไร้วี่แววจากฟีฟ่า ข้างใน 6 วันจะชี้เป็นชี้ตาย หลังผู้ว่า กกท. ติดต่อไปยังฟีฟ่า ขอลดราคาค่าลิขสิทธิ์ลงก็ยังไร้วี่แววสำหรับเพื่อการตอบกลับและก็การันตีว่า ภายใน 6 วันนับแต่นี้ไปจะชี้ขาดทุกเรื่อง

ความคืบหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 เดือนพฤศจิกายน-18 เดือนธันวาคมนี้ ภายหลังจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และก็กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติอนุมัติเงินช่วยเหลือจาก กองทุนวิจัย และก็พัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และก็กิจการโทรคมนาคม เพื่อ

ประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (การกีฬาแห่งประเทศไทย) เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เสนอขอรับการสนับสนุนไป 1,600 ล้านบาท ทำให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ต้องหาภาคเอกชน เข้ามาสนับสนุนอีก 1,000 ล้านบาทนั้น

ลิขสิทธิ์บอลโลก ภายใน

ลิขสิทธิ์บอลโลก ล่าสุด “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย

เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ยังรอคำตอบจากทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ผ่านทางเอเย่นต์ ที่ประสานงานกันมา อยู่

ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ส่งอีเมล ขอลดราคาไปอีกรอบ ตั้งแต่วันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพราะเหตุว่ามีความคิดเห็นว่าราคาที่ฟีฟ่าเสนอมา ยังแพงเกินไป

แต่ว่าวันที่ 13 เดือนพฤศจิกายน 2565 ทางเอเย่นต์ฟีฟ่า ก็ยังไม่ได้มีการตอบรับกลับมาแต่อย่างใด ดังนี้หากยังไม่มีการตอบกลับกลับมา วันที่ 14 เดือนพฤศจิกายน ก็จะทำหนังสือส่งเข้าไปอีกรอบ

เพราะเหตุว่าเวลากระชั้นเข้ามามาก ๆ แล้ว ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ส่วนข่าวจะมีการใช้เงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ 600 ล้านบาท เพื่อนำไปสมทบค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้

ในเรื่องนี้ จำเป็นจะต้องชะลอเอาไว้ก่อน ต้องหารือกันภายในบอร์ดกองทุนฯ และก็รอดูท่วงท่าของฟีฟ่าอีกรอบด้วย ว่าจะขายลิขสิทธิ์เยอะแค่ไหน

เวลาเดียวกัน นอกเหนือจากเอกชน 5 รายที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ประสานงานเพื่อให้ช่วยสนับสนุนถ่ายทอดสดแล้ว

ปัจจุบันนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ยังเดินหน้าหาสปอนเซอร์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

เพราะเหตุว่าไม่ใช่แค่เพียงแต่ค่าลิขสิทธิ์ ที่จำต้องจ่าย หากได้ถ่ายทอด ยังมีค่าภาษี การตั้งศูนย์ถ่ายทอดสด ค่ารับสัญญาณดาวเทียม ค่าใช้จ่ายในการเช่าเวลาสถานี เพิ่มมาอีกด้วย

รายงานข่าวสารแจ้งว่า สำหรับ แนวทางที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและก็กีฬา เสนอ จะขอความคิดเห็นจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)

สำหรับเพื่อการประชุมวันที่ 15 เดือนพฤศจิกายน เพื่อยืมเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มาสมทบสำหรับเพื่อการไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ก่อน แล้วนำเงินจากภาคเอกชนที่หามาได้ต่อจากนี้ มาคืนให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้น เป็นเพียงแนวความคิดที่ผ่านมา

ซึ่ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ไม่เห็นพ้อง ด้วยเหตุนี้สำหรับเพื่อการประชุม ครม.

วันที่ 15 เดือนพฤศจิกายน จะไม่มีการนำเรื่องนี้เสนอต่อที่ประชุม ครม. ส่วนความคืบหน้าการสนทนาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก วันที่ 13 เดือนพฤศจิกายน

ยังไม่มีความแจ่มกระจ่าง เพราะเหตุว่าฟีฟ่า ยังไม่ตอบกลับมาว่า จะยอมลดราคาให้กับประเทศไทยได้เยอะแค่ไหน จำต้องรอจนถึงวันที่ 14 เดือนพฤศจิกายน

ลิขสิทธิ์บอลโลก ชี้เป็นชี้ตาย

ดังนี้เรื่องที่กังวลใจอีกประเด็น ในระหว่างวันที่ 16-18 เดือนพฤศจิกายน ลิขสิทธิ์บอลโลก

เป็นวันหยุดในโอกาสไทยเป็นเจ้าภาพประชุมสัปดาห์ ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอีก จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน ตอนนี้คนที่หนักใจที่สุดเป็น ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่จำต้องรีบเคลียร์เรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ให้จบด้วยดี และก็เร็วที่สุด

โดยวันที่ 14 เดือนพฤศจิกายน สำนักอัยการสูงสุด จะเชิญฝ่ายกฎหมายของ การกีฬาแห่งประเทศไทย ไปพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องข้อกฎหมายทุกข้อความสำคัญ เวลาเดียวกัน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ต้องไปเซ็นเอ็มโอยู กับ กสทช. หลังจากที่ กสทช. อนุมัติงบประมาณจาก กองทุนกทปส. ให้ 600 ล้านบาทที่ผ่านมา

รายงานข่าวสารยังระบุอีกว่า ตอนนี้มีเงิน 600 ล้านบาทจาก กสทช. และก็ 400 ล้านบาทจาก 3 บริษัทเอกชนสนับสนุนเพิ่มเติมให้ดังเช่น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน),

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ส่วนอีก 2 บริษัท ดังเช่น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จํากัด (มหาชน) และก็บริษัท ปตท. สำรวจผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) นั้น ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย ส่งหนังสือขอรับการสนับสนุนเข้าไป

ช่วงวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ว่าติดวันเสาร์ และก็อาทิตย์ จึงยังไม่มีการตอบกลับมา ปัจจุบันนี้ หากรวมเงินจาก กสทช. 600 ล้านบาท และก็เอกชน ที่คาดว่าจะช่วยเหลือ ราว 400 ล้านบาท การกีฬาแห่งประเทศไทย จะมีเงินอยู่ราว 1,000 ล้านบาท

ซึ่งในส่วนของ ท่วงท่าของ ฟีฟ่า ที่ผ่านมาเป็นไม่ยอมลดราคาให้เหลือ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,140 ล้านบาท โดยบอกมาว่า ถ้าหากเราจะซื้อในราคาที่ถูกกว่า 38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,444 ล้านบาท

เราต้องซื้อเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้ฟีฟ่า ยืนกรานว่า ไม่ยอมขายแพ็กเกจย่อย คือ ซื้อสิทธิ์ตั้งแต่รอบ 2 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ไทย บังคับให้ซื้อฟูลแพ็กเกจ 64 แมตช์เพียงแค่นั้น แต่ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยก็ได้แสดงสิ่งที่จำเป็น ขอลดราคาเข้าไปอีก

ซึ่งถึงเวลานี้ ฟีฟ่า ยังนิ่งไม่มีการตอบอีเมลกลับมาอะไร คงจำต้องรอดูในวันที่ 14 เดือนพฤศจิกายนอีกรอบ รายงานข่าวสารแจ้งอีกว่า ในส่วนของขั้นตอนที่ฟีฟ่า กำหนดและก็ขีดเส้นตายเอาไว้ หากเลือกที่จะซื้อลิขสิทธิ์ ข้างในวันที่ 18 เดือนพฤศจิกายน 2565 ไทยเราจำต้องปิดดีลกับฟีฟ่าให้สำเร็จว่า จะซื้อในราคาเยอะแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นวันที่ 19 เดือนพฤศจิกายน ก่อนเตะครั้งแรกฟุตบอลโลก 2022 ไทยจึงควรโอนเงินทั้งหมดไปให้ฟีฟ่า พร้อมภาษี 15 เปอร์เซ็นต์ ให้เรียบร้อยแล้ว